GENERAL BATTERY(Lithium ion) VS CAPACITOR BATTERY
แบตเตอรี่ในกล้องติดรถยนต์ : แบตเตอรี่ธรรมดา (ลิเทียมไอออน) VS แบตเตอรี่คาปาซิเตอร์
SHOULD YOU GET A DASHCAM WITH A BATTERY OR WITH A CAPACITOR?
ควรเลือกกล้องติดรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่แบบธรรมดาหรือแบบคาปาซิเตอร์ ?
กล้องติดรถยนตส่วนใหญ่จะใช้ไฟจากที่จุดบุหรี่รถยนต์โดยใช้สายชาร์จเสียบเข้ากับที่จุดบุหรี่ แต่อย่างไรก็ตามกล้องติดรถยนต์ยังต้องการพลังงานสำรองเพื่อในการบันทึกไฟล์หลังจากที่กล้องไม่มีไฟหรือหลังจากดับเครื่องยนต์ เพื่อให้กล้องบันทึกไฟล์สุดท้ายได้อย่างสมบูรณ์และด้วยวัตถุประสงค์นี้กล้องติดรถยนต์ต้องเลือกระหว่างใช้แบตเตอร์รี่หรือคาปาซิเตอร์เป็นพลังงานสำรองในกล้องติดรถยนต์.
ดังนั้นแบตเตอร์รี่ที่ใช้ในกล้องติดรถยนต์จะแตกต่างจากกล้องดิจิตอลทั่วไป เพราะแบตเตอร์รีในกล้องติดรถยนต์นั้นมีขนาดที่เล็กและสามารถทำให้กล้องทำงานต่อไปได้อีกไม่นานหลังจากที่คุณดับเครื่องยนต์และมีไว้เพื่อใช้บันทึกไฟล์วีดีโอ.
แบตเตอร์รี่หรือคาปาซิเตอร์นั้นมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาแนวโน้มของกล้องติดรถยนต์นั้น ส่วนใหญ่ของกล้องติดยนต์ที่มีคุณภาพและราคาสูงจะใช้คาปาซิเตอร์มากกว่าแบตเตอร์รี่ ในขณะที่กล้องติดรถยนต์ระดับทั่วไปหรือราคาถูกจะใช้แบตเตอร์รี่แบบลิเทียมไอออน ดั้งนั้นอะไรคือข้อแตกต่างของแบตเตอร์รี่กับคาปาซิเตอร์ เรามาดูกัน…
The Way they function
ปัจจัยด้านฟังก์ชั่นการทำงาน
ถึงแม้แบตเตอร์รี่กับคาปาซิเตอร์จะเป็นแหล่งพลังงาน แต่วิธีการทำงานของทั้ง 2 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และมีผลที่แตกต่างกันด้วย
แบตเตอร์รี่เปลี่ยนพลังงานงานเคมีเป็นพลังงานไฟฟ้า แบตเตอร์รี่สามารถชาร์จไฟหลายครั้งและเติมไฟได้โดยการชาร์จากแหล่งไฟภายนอก
ส่วนคาปาซิเตอร์นั้นจะทำงานเก็บพลังงานในรูปแบบของสนามไฟฟ้าระหว่างเพลต2ขั้วไฟฟ้า นักวิจัยจึงพยายามที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มความสามารถในการเก็บประจุไฟฟ้าของคาปาซิเตอร์ให้มากขึ้น เพราะทำงานได้เหมือนแบตเตอรีทุกอย่าง เหมาะสำหรับ งานที่ต้องใช้กระแสสูง และชาร์จไฟได้เร็ว และชาร์จบ่อยๆ
เมื่อต่อคาปาซิเตอร์ต่อเข้ากับกล้อง จะพบว่าคาปาซิเตอร์จะมีการคายประจุไฟฟ้าได้เร็วกว่าแบตเตอร์รี่ ซึ่งในทำนองเดียวกันจะสามารถชาร์จไฟได้เร็วกว่าแบตเตอร์รี่เช่นกัน.
Reliability of capacitor vs. Battery
ความน่าไว้วางใจของแบตเตอรี่คาปาซิเตอร์ vs แบตเตอรี่ธรรมดา
ไม่ว่ากล้องติดรถยนต์ของคุณจะใช้แบตเตอร์รี่หรือคาปาซิเตอร์ต่างก็มีผลต่อความเสถียรของกล้อง แบตเตอร์รี่มีความไวต่อการสึกหรอเมื่อชาร์จไฟและปล่อยไฟออก ซึ่งในที่สุดจะทำให้แบตเตอร์รี่เสื่อมหมดสภาพได้เร็ว โดยแบตเตอร์รี่จะเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่า โดยโรงงานส่วนใหญ่จะใช้แบตเตอร์รี่ที่มีคุณภาพต่ำมาใช้ในการกล้องติดรถยนต์ โดยทำให้เกิดปัญหาแบตเตอร์รี่บวมหรือเสื่อมไว ทำให้เกิดความเสียหายต่อกล้องติดรถยนต์ (เมื่อแบตเตอร์รี่เสื่อมจะมัผลต่อการทำงานของกล้องทั้งทำให้กล้องรวน, ไฟล์สดท้ายก่อนดับเครื่องยนต์เสีย และ วันที่ในตัวกล้องย้อนกลับซึ่งมีผลต่อการลบไฟล์ในระบบบันทึกวนทับ)
คาปาซิเตอร์จะมีความน่าเชื่อถือที่มากกว่าในด้านการทนความร้อนซึ่งไม่หมือนจากแบตเตอร์รี่ โดยคาปาซิเตอร์จะหมดความเสี่ยงเรื่องการระเบิดหรือความร้อนที่มากเกินไปเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ ดังนั้นถ้าคุณใช้กล้องติดรถยนต์ในที่ๆอุณหภูมิสูง คุณควรเลือกใช้กล้องติดรถยนต์ที่ใช้คาปาซิเตอร์
คุณจะสามารถชาร์จไฟในคาปาซิเตอร์ได้เร็วกว่าการใช้แบตเตอร์รี่ แต่ข้อเสียของคือคาปาซิเตอร์สามารถเก็บไฟน้อย ซึ่งคุณไม่เปิดกล้องติดรถยนต์ที่ใช้คาปาซิเตอร์ในการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆโดยปราศจากการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ อย่างไรก็ตามจึงมีความพยายามที่พัฒนาคาปาซิเตอร์ที่สามารถในการเก็บประจุไฟที่มากขึ้น ซึ่งเป็นทางที่จะทำให้ข้อด้อยของคาปาซิเตอร์หมดไปในอนาคต.
THE COST FACTOR
ปัจจัยด้านราคา
แบตเตอร์รี่นั้นมีราคาที่ถูกกว่า และมีต้นทุนในการพัฒนาแผงวงจรต่างๆ เพื่อให้ใช้ได้กับแบตเตอรี่ในราคาที่ไม่สูงมาก จึงนิยมนำแบตเตอรี่มาใช้ร่วมกับอุปกรณ์ทั่วไปหรือราคาถูก ซึ่งในทางตรงกันข้ามคาปาซิเตอร์นั้นมีราคาที่แพงกว่า, ต้นทุนพัฒนาที่แพงกว่าจึงนำมาใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง นั้นจึงเป็นเหตุผลหลักที่แสดงให้เห็นว่าทำไมกล้องติดรถยนต์ราคาถูกถึงใช้แบตเตอร์รี่ แต่ถ้าตัดเรื่องราคาไป แนะนำว่าเลือกใช้กล้องติดรถยนต์ที่ใช้แบบคาปาซิเตอร์ และในอนาคตกล้องติดรถยนต์ระดับกลางถึงระดับสูงจะใช้คาปาซิเตอร์มากขึ้น.
” Scene Gadget – Yours Lifestyle Gadgets : แก็ดเจ็ตที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ “
เนื้อหาบทความแปลจากบทความที่โพสใน Dashcameras.net
อ้างอิง : https://dashcameras.net/battery-vs-capacitor/
